วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

พระยาชัยสุนทร

       
         พระยาชัยสุนทร 
        พระยาชัยสุนทร เดิมชื่อ “ท้าวโสมพะมิตร” แห่งนครเวียงจันทน์ เมื่อพ.ศ. 2310 พระองค์เจ้าเวียนดา ผู้ครองนครเวียงจันทน์ ได้สิ้นพระชนม์ลง โอรสท้าวเพี้ยเมืองแสนได้เข้ายึดเมืองและสถาปนาตนเป็นผู้ครองนครเวียงจันทน์ ได้กดขี่ข่มเหงประชาชนและขัดใจกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในเมือง รวมทั้งท้าวโสมพะมิตร ในราวปี พ.ศ. 2320 ท้าวโสมพะมิตรจึงได้รวบรวมผู้คนที่เป็นสมัครพรรคพวกอพยพจากดินแดนทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณลุ่มน้ำก่ำ แถบบ้านพรรณนา หนองหาร ธาตุเชียงชุม เมืองพรรณนานิคม แต่เจ้าเมืองเวียงจันทน์ได้ยกทัพติดตามทำให้ต้องอพยพผู้คนข้ามสันเขาภูพานลงมาทางใต้ และตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านกลางหมื่น ซึ่งนับผู้คนได้ราว 5,000 คน (กลางหมื่น เป็นชื่อหมู่บ้านในปัจจุบันของอำเภอเมืองกาฬสินธุ์) และท้าวโสมพะมิตรได้ส่งท้าวตรัยและผู้รู้หลายท่านออกเสาะหาชัยภูมิและทำเลที่เหมาะสม จึงได้พบกับลำน้ำปาวและเห็นว่าแก่งสำโรงชายสงเปลือย มีดินมีน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ควรตั้งเป็นเมือง จึงได้อพยพผู้คนมาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้ ตั้งตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อใครได้ประมาณ 10 ปีเศษ
        ในปี พ.ศ. 2325 สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้สถาปนากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นเมืองหลวง ท้าวโสมพะมิตรจึงได้นำเครื่องบรรณาการเข้าถวายสวามิภักดิ์ และกราบทูลขอตั้งบ้านแก่งสำโรงขึ้นเป็นเมืองในปี พ.ศ.2334 โดยถือเอานิมิตเมืองพรรณนานิคมและเมืองหนองหาญ ธาตุเชียงชุมอันเป็นเมืองเดิมใช้ลุ่มน้ำก่ำเป็นแหล่งประกอบอาชีพ ซึ่งชาวเมืองเรียกแม่น้ำว่า “ก่ำ” แปลว่า “ดำ” ประกอบกับท้าวโสมพะมิตรได้นำกาน้ำสัมฤทธิ์ทูลเกล้าถวาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะบ้านแก่งสำโรงขึ้นเป็นเมือง พระราชทานนามว่า “เมืองกาฬสินธุ์” และแต่งตั้งท้าวโสมพะมิตรเป็น “พระยาชัยสุนทร” ปกครองเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ.2336 จนกระทั่งพระยาชัยสุนทรถึงแก่อนิจกรรมเมื่ออายุได้ 70 ปี และมีเจ้าเมืองผู้ปกครองเมืองกาฬสินธุ์สืบมา

อ้างอิง http://stkg.igetweb.com/index.php?mo=3&art=259321

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น